เราเองมาถึงฮอกไกโดในช่วงเดือนมีนาคม ที่หิมะยังตกเกือบทุกวันแบบนี้ จึงไม่ขอพลาดโอกาสที่จะพาตัวเองไปเจอ “นกกระเรียนมงกุฎแดง” หรือ Red Crowned Crane สัญลักษณ์ของแดนอาทิตย์อุทัย ที่เมืองคุชิโระกันสักหน่อย






เค้าว่ากันว่านกกระเรียนมงกุฎแดง เป็นนกอนุรักษ์ ที่ใกล้สูญพันธุ์ และหายากขึ้นทุกวัน และเจ้านกกระเรียนนี้เองยังถือเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับ พระอาทิตย์และดอกเบญจมาศ (ที่เราจะเห็นได้จากภาพวาด  ลวดลายบนชุดกิโมโน หรือ ซองมงคลต่างๆ) เพราะด้วยรูปร่างของมันที่สะโอดสะอง  ระหง สง่างาม  แถมยังมีอายุยืนถึง 50-60 ปี และที่น่าสนใจมากอีกอย่างคือ นกกระเรียนเป็นสัตว์ที่มีความรักมั่นคงมาก คือ เมื่อมันมีคู่แล้วก็จะไม่มีวันแยกจากกันจนชั่วชีวิต (เราอ่านจากข้อมูลโบว์ชัวร์ เค้าบอกว่าต่อให้คู่ของมันตายลงไป อีกตัวที่เหลืออยู่ก็จะไม่ยอมหาคู่ใหม่ >< ช่างเป็นสัตว์ที่มีหัวใจรักจริง ยืนยงน่าเอาเยี่ยงอย่างจริงๆเลยหนอ!!!! เจ้านกกระเรียน)








และด้วยเหตุผลดีๆนานัปประการแบบนี้นี่เอง จึงทำให้นกกระเรียนกลายเป็นสัญลักษณ์ของ “ความโชคดี ความซื่อสัตย์และอายุยืนยาว” ของชาวญี่ปุ่นอีกด้วย (ด้วยเหตุนี้กิโมโนแต่งงานของชาวญี่ปุ่นจึงมักมีลวดลายปักเป็นรูปนกกระเรียน  นอกจากนี้คนญี่ปุ่นยังชอบพับกระดาษเป็นนกกระเรียน เพราะเชื่อว่าคนที่พับได้มากจะมีอายุยืนเหมือนนกกระเรียนเหมือนดังเช่นเรื่องราวของ ซาดาโกะและนกกระเรียนพันตัว แห่งฮิโรชิม่า นั่นเอง)




สำหรับการไปดูนกกระเรียนญี่ปุ่นครั้งนี้ เราเลือกนั่งรถเมล์สาย 20 ออกจากเมืองคุชิโระไปประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมง มุ่งหน้าไปยัง  Tsurui Ito Tancho Sanctuary ซึ่งดูแลโดย Japan Wild Bird Association Nature Center (ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของคุชิโระ เพราะจะเป็นนกกระเรียนที่ใช้ชีวิตตามธรรมชาติจริงๆไม่ใช่แบบที่ถูกเลี้ยงไว้ให้ชม)




ซึ่งจุดชมนกกระเรียนนี้ตั้งอยู่ริมถนนสาย 53….ที่นี่จึงอาจจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ นอกจากร้านค้าเล็กๆหนึ่งร้านและป้ายรถเมล์เล็กๆ (เล็กมากจริงๆคอนเฟิร์ม ^^ แต่ก็เอาไว้พอหลบหิมะได้) ทั้งสองฝั่งถนนโดยสภาพ ก็คือฝั่งหนึ่งเป็นภูเขาที่มีราบเชิงเขาเล็กน้อย เป็นลานโล่งๆให้นกกระเรียนเดินคุ้ยเขี่ย เกี้ยวพาราสีกัน ส่วนอีกฝากฝั่งหนึ่งของถนน ก็เป็นลานกว้าง ๆมีต้นไม้ใหญ่อยู่นิดหน่อย และก็เป็นจุดที่มีนกกระเรียนรวมฝูงกันมากกว่าฝั่งลานเชิงเขา แต่นกกระเรียนฝูงนี้ ก็จะบินข้ามไปมา 2 ฝั่งถนน และจะอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ โดยทั้งสองฝั่งก็จะมีแนวรั้วไม้ทำไว้กั้นระยะให้คนที่ไปชมนกกระเรียนไม่เดินเข้าใกล้ หรือ รบกวนนกกระเรียนมากเกินไปนัก




ตลอดทั้งวันที่เราไปยืนเฝ้าดูนกกระเรียนที่ Tsurui Ito Tancho Sanctuary จะมีรถขับผ่านไปมาและมีคนแวะลงมายืนชมนกกระเรียนบ้างปะปราย ทุกคนต่างมายืนชมนกกระเรียนด้วยอาการสงบ นิ่ง เพื่อดูการใช้ชีวิตของมัน บางจังหวะก็จะยกกล้องขึ้นมาเก็บภาพบรรดานกกระเรียนเหล่านี้ อย่างชื่นชม สุขใจ ^____^




สำหรับเรา ขอบอกเลยว่าการได้เฝ้ายืนมองฝูงนกกระเรียนนับสิบๆตัวตั้งแต่ 10โมงกว่าๆจนบ่าย 4 โมง และได้เห็นเจ้านกแสนงามผู้ซื่อสัตย์ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ คุ้ยเขี่ยหาอาหาร หยอกเย้า เยื้องย่าง หรือ เกี้ยวพาราสีกัน ท่ามกลางลานหิมะขาวโพลนและมีหิมะตกโปรยปรายเป็นระยะ ในบรรยากาศที่ เงียบ สงบ แต่ปนหนาวเหน็บนานหลายชั่วโมงแบบนั้น  เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะไม่มีวันลืมเลยจริงๆ ^______^




เรารู้สึกว่าภาพงดงามที่อยู่ตรงหน้า บางช่วงเวลามันช่างเหมือนภาพฝัน แต่มันเป็นภาพฝันที่ประจักษ์ตรงหน้า และไม่มีอะไรมากไปกว่า สีขาวสะอาดของหิมะ  ขนขาวนวลของนกกระเรียน  ปนสีแดง-ดำ ของปีก ขา และมงกุฎบนหัวของมัน ….เฮ้อ!!!! มันช่างเป็นภาพฝันเหมือนจริงที่สวยงามคลาสสิกสุดบรรยายเลยล่ะทุกคน  :  Kushiro, March 2014




หมายเหตุ
และนอกจากที่ Tsurui Ito Tancho Sanctuary แล้วในเมืองคุชิโระ ยังมีแหล่งให้ชมนกกระเรียนอีก 2 แห่ง นั่นก็คือ
1. Kushiro Tancho Nature Park ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองคูชิโระ กับ Akan National Park Akan International Crane Center โดยที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ที่มีเรื่องราวทุกสิ่งอย่างของนกกระเรียนให้ชมพร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษอีกด้วย สามารถนั่งรถประจำทางออกจากเมืองคุชิโระไปประมาณ 1 ชั่วโมง
2. Tancho Observation Center ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ที่นี่มีห้องให้เฝ้าชมนกกระเรียนอย่างง่ายดาย แต่ทั้ง 2 ที่นี้ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตูซักนิดนึงนะจ้ะ ^^