Echigo TOKImeki Resort Setsugekka

::: JAPAN UPDATE : 2018-02-19 05:04:40

Echigo TOKImeki Resort Setsugekka

รถไฟสายท่องเที่ยว แบบ Sightseeing ที่นักท่องเที่ยวทุกคนสามารถนั่งสัมผัสวิวธรรมชาติสวยๆตาม 2 ข้างทางระหว่างเดินทางได้แบบเต็มๆตา  เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2016 โดยทีม ICHIBANSEN และ Nextstations ได้นำรถไฟธรรมดาที่เป็นขบวนสำหรับไว้ใช้ชมเมืองชนบทในฝั่งตะวันตกของจังหวัด Niigata มาดีไซน์และปรับเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ ใช้สีแดง Vermillion เพื่อให้รถไฟขบวนนี้ดูสดใส โดดเด่นแต่ก็กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม





รถไฟ Setsugekka ไฮไลท์ของรถไฟอยู่ตรงที่เค้าออกแบบบานกระจกขนาดใหญ่ที่มีคุณสมบัติกันความร้อนนำมาแทนที่ผนังขบวนรถไฟธรรมดาแบบเดิมๆที่เราเคยเห็นกัน  ซึ่งทำให้ผู้โดยสารสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของละแวกนั้นได้อย่างเต็มตาและจุใจ มีด้วยกัน 2 ตู้ รองรับนักท่องเที่ยวได้ 45 คน ใครก็ตามที่เข้ามาภายในรถไฟขบวนนี้  ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นไปกับความหรูหรา สวยงามของรถไฟ โดยตู้หมายเลข 1 รองรับนักท่องเที่ยวได้ 23 คน ตกแต่งสไตล์เรียบง่าย โต๊ะที่นั่งทำด้วยไม้สน cedar จากท้องถิ่นที่มีลวดลายไม้สีสันสดใส ให้ความรู้สึกสบายตา หันหน้าไปทางฝั่งทะเลญี่ปุ่นและฝั่งภูเขา Myoko  ที่ได้ชื่อว่าเป็นภูเขาฟูจิแห่ง Echiko และติดกับหัวขบวนรถไฟมีที่นั่งชมวิวแบบพิเศษที่เรียกว่า Tenbo High Deckสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการสัมผัสกับทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจแบบนี้  





ตู้หมายเลข 2 ที่จุคนได้ 22 คน ตกแต่งอย่างประณีตด้วยวัสดุชั้นดี เน้นเอกลักษณ์ท้องถิ่น ใช้โทนสีน้ำตาลเข้ม และเพิ่มความหรูหราของที่นั่งด้วยลวดลายกราฟฟิกหิมะ พระจัทร์และดอกไม้ มีโซนที่นั่งพร้อมโต๊ะอาหาร 6 โต๊ะ ที่สามารมองวิว 2 ข้างทางได้อย่างเพลิดเพลิน ในส่วนท้ายขบวนมีพื้นที่พิเศษที่มีโต๊ะอาหารกับชุดเก้าอี้สีแดงที่สามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัส special view อย่างนี้ รวมไปถึงมีโซน café & bar ตกแต่งในธีมซากุระ คอยเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มแบบครบครัน 





นอกจากดีไซน์ตัวขบวนรถไฟแล้วนะคะ เรื่องการตกแต่งภายในนั้นก็พิถีพิถันไม่แพ้กัน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งเล็กๆน้อยๆ เค้าก็เก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ อย่างที่เก็บผ้าม่านนี้ออกแบบตามวิวที่เราจะได้เห็น ถ้าฝั่งที่มองเห็นทะเลตัวเก็บผ้าม่านจะเป็นรูปคลื่นทะเล ถ้าฝั่งที่เห็นภูเขาตัวเก็บผ้าม่านก็จะเป็นรูปภูเขาแบบนี้แหละค่ะ 





และทัศนียภาพของ 2 ข้างทางนี้นะคะความงดงามที่เราจะได้เห็นนั้นในแต่ละฤดูก็สวยงามแตกต่างกันออกไป อย่างในฤดูใบไม้ผลินักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความโรแมนติกจากวิวดอกซากุระและดอกนาโนฮานะ ฤดูร้อนที่ท้องฟ้าสดใสบวกกับวิวทะเลสวยๆดูสดชื่น ในฤดูใบไม้ร่วงสามารถชมใบไม้แดงและทุ่งข้าวสีเหลืองที่พร้อมเก็บเกี่ยว และช่วงฤดูหนาวแบบนี้ก็จะได้สัมผัสวิวหิมะขาวโพลนที่ปกคลุมไปทั่วทุกหนแห่งแบบนี้ค่ะ เอาเป็นว่า เราสามารถนั่งรถไฟ Setsugekka เพื่อสัมผัสความงามของธรรมชาติได้ทุกฤดูตามชื่อของรถไฟจริงๆค่ะ





เมนูที่เสิร์ฟระหว่างการเดินทางเป็นอาหารฝรั่งเศสที่ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างดี นำเสนอเมนูอาหารออกมาในรูปแบบเอกิเบนสไตล์ญี่ปุ่น ครบทั้งของคาวและของหวาน โดยเชฟ Ryuta Iizuka เชฟมิชลิน 2 ดาวจากร้านอาหาร Ryuzu พร้อมด้วยเครื่องดื่มขึ้นชื่อของจังหวัด Niigata มีด้วยกัน 3 ชั้น ชั้นแรกสุดเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ชั้น 2 และ 3 จะเป็นอาหารจานหลัก โดยวัตถุดิบและเมนูอาหารจะเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดู อย่างใครมาช่วงฤดูหนาวแบบนี้ ก็จะได้ลิ้มลองรสชาติเนื้อปูของ Niigata และอาหารทะเลอย่าง กุ้ง หอยเชลล์ ปลาแซลมอน เนื้อ ผักและผลไม้อื่นๆ ซึ่งวัตถุดิบทั้งหมดที่นำมาใช้ล้วนเป็นของในจังหวัดทั้งหมดจริงๆ รวมถึงเฟอนิเจอร์ต่างๆ ในรถไฟที่เราเห็นกันด้วยนะคะ พูดง่ายๆว่าเป็น all made in NIIGATA นั่นเองค่ะ 





ระหว่างการเดินทางด้วยรถไฟ แต่ละสถานีจะมีความน่าสนใจแตกต่างกัน อย่างที่ สถานี Naoetsu ถึงจะมีเวลาจอดพักเพียง 8 นาทีสิ่งที่นักท่องเที่ยวควรจะแวะลงไปก็คือ ลงไปเจอคุณลุงขายเอกิเบนที่ด้านในกล่องเป็นข้าวหน้าปลา Cod หรือปลาหิมะ อาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อที่หากินได้ยาก ใช้เวลาในการทำปลาหิมะถึง 3 วันให้มีรสชาติที่หวานหอมอร่อย จนได้แรงกิ้งอันดับสูงสุดของ JR east ในปี 2012 ซึ่งคุณลุงคนนี้เป็นคนท้องถิ่น มีชื่อเสียง ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มที่คอยยืนต้อนรับ พร้อมกับสะพายขายเอกิเบนที่สถานีนี้ อยู่เป็นประจำ จึงทำให้เป็นที่รู้จักและมีรายการ สื่อญี่ปุ่นต่างๆมาถ่ายแกอยู่เสมอ ใครมาที่นี่จึงต้องแวะมาซื้อ มาทักทาย และถ่ายรูปด้วย เรียกได้ว่าเป็น Signature ของที่นี่เลยก็ว่าได้ค่ะ





สถานี Takada แวะลงสถานีนี้แล้วนั่งรถบัสต่อไปยัง Takada Sekaikan โรงภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และอย่าพลาดแวะมาร้านค้าชาวบ้านตรง  Gangi street ที่ขายของที่ระลึกบริเวณอีกฝากของถนน มีทั้งของฝาก อาหาร และขนมที่เป็นของท้องถิ่น 1 mission เก๋ๆที่จะได้สัมผัสความคลาสสิกของยุคสมัยเก่าของญี่ปุ่น ใช้เวลาเที่ยวไป-กลับแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาที 

 


สถานี Nihongi ที่มีของพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นต่างๆ ของชาวบ้านที่มีชื่อเสียงวางขาย อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์จากพริก ขิงดอง หรือลูกพลับตากแห้ง ซึ่งสินค้าของที่นี่มีเอกลักษณ์และรสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร ซื้อไปเป็นของฝากได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ 





สถานี Arai สถานีนี้นะคะมีความน่ารักตรงที่ช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกแบบนี้ จะมีนายสถานีเป็น snowman คอยยืนตอนรับผู้ที่มาเยือน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ใครมาก็ต้องแวะลงมาทักทายถ่ายรูปทั้งนั้น  





เสน่ห์อีกอย่างของการเที่ยวในครั้งนี้นะคะ นักท่องเที่ยวอย่างเราที่มาจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากพนักงาน ในรถไฟและคนในท้องถิ่นที่คอยออกมายืนต้อนรับ ส่งยิ้ม และโบกมือทักทายในแต่ละสถานี ทั้งขาไปและขากลับ สร้างความประทับใจให้กับการมาเที่ยวครั้งนี้ได้เป็นอย่างมากจริงๆ





รถไฟ Setsugekka ถ้าเปรียบเทียบกับรถไฟทั่วไปจะค่อนข้างจะช้ากว่ามาก ต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที จากสถานีต้นทางไปจนถึงสถานีปลายทาง เพื่อให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพย์ ความสวยงามของธรรมชาติระหว่างการเดินทางได้อย่างเต็มที่ โดยปกติรถไฟจะวิ่งให้บริการเฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤก มีด้วยกัน 2 เที่ยว คือ 1 เที่ยวในช่วงเช้า ระหว่างสถานี Joetsu myoko และสถานี Itoigawa และ อีก 1 เที่ยวในช่วงบ่าย ระหว่างสถานี Itoigawa และสถานี Joetsu myoko ซึ่งในช่วงฤดูหนาวจะเดินรถจากสถานี Itoigawa ไปยังสถานี Joetsu Myoko เท่านั้น และแต่ละฤดูจุดจอดและเส้นทางจะมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับฤดูนั้นๆอีกด้วยค่ะ 




ค่าบริการ : ค่าบริการรถไฟ Setsugekka ราคา ¥ 19,500 / คน (รวมค่าอาหาร)
               *ราคาเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล

เว็บไซต์ www.echigo-tokimeki.co.jp/setsugekka