ตอนนี้กระแสการไปดูดอกซากุระกำลังแรงโดยเฉพาะกับเมืองหลวงอย่างโตเกียว เพราะนอกจากจะเป็นเมืองที่ทันสมัย ตึกเยอะแยะแล้วเค้าก็ยังมีพื้นที่ๆสามารถดูซากุระสวยๆไม่แพ้ที่อื่นด้วยแหละค่ะอย่างที่…

Sumida Park
สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสุมิดะ เป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น งานแสดงดอกไม้ไฟและยังเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับการนั่งชมดอกซากุระบาน พื้นที่แห่งนี้ทอดยาวจากทิศเหนือจรดใต้มักใช้เป็นสถานที่เดินเล่นและเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นโตเกียวสกายทรีได้อีกด้วย

การเดินทาง
โดยรถไฟ:เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานีอะซะคุสะ (สายกินซ่า/สายโทเออิอะซะคุสะ/สายโทบุอิเซะซะกิ)
โดยรถบัส:นั่งรถบัสโทเออิ โทะ42 โค หรือ โทะ42 โอสึ แล้วลงที่ป้ายฮานากะวะโดะ

Hama-rikyu Gardens
สวนแห่งนี้เคยเป็นของรัฐบาลโชกุนโทคุงาวะและใช้เป็นปราสาทสาขาของปราสาทเอโดะในสมัยเอโดะ ประกอบด้วยส่วนสำคัญต่างๆ คือสระที่มีคลื่นและพื้นที่สำหรับล่าเป็ด 2 ส่วน กล่าวกันว่าสวนที่เห็นกันในปัจจุบันสร้างเสร็จในสมัยของโทคุงาวะ อิเอะนะริ โชกุน คนที่ 11 หลังจากการปฏิรูปเมอิจิ
สวนแห่งนี้ได้กลายเป็นบ้านพักของสำนักพระราชวังและได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ฮะมะริคิว” สวนถูกยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานบริหารมหานครโตเกียวในปี 1945 และเปิดให้บริการแก่สาธารณชนในฐานะ “สวนอนชิ ฮะมะริคิว” ในเดือน เมษายนปี 1946

การเดินทาง
โดยรถไฟ:เดิน 7 นาทีจากสถานีชิโอโดเมะ/สถานีสึกิจิ-ชิโจของโทะเออิสายโอเอะโดะหรือจากสถานีชิโอโดเมะของสายยุริคะโมะเมะ, เดิน 12 นาทีจากสถานีชิบะชิของJR/โตเกียวเมโทรสายกินซ่า/โทะเออิสายอะซะคุสะ

Shinjuku Gyoen National Garden
สร้างขึ้นบนที่ตั้งแมนชั่นส่วนตัวของครอบครัวนะอิโตะผู้มีศักดิ์เป็นขุนนางที่มีความสัมพันธ์กับเขตปกครองทะคะโตะในจังหวัดชินะโนะระหว่างช่วงปีเอโดะ (1603-1868) พื้นที่บางส่วนถูกแปลงสภาพเป็นที่ตั้งการทดลองเกษตรกรรม และต่อมาได้ตกอยู่ภายใต้การจัดการของฝ่ายทรัพย์สินแห่งจักร
พรรดิเมื่อมีการบูรณะสมัยเมอิจิ (1868) สวนพฤกษศาสตร์ชินจูกุอิมพีเรียลก่อสร้างเสร็จในปี 1906　และเปิดสู่สาธารณชนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กลายเป็นสวนสาธารณะแห่งชาติชินจูกุเกียวเอ็น ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมด 583,000 ตร.ม. ซึ่งมีการจัดสวนผสมผสานกัน 3 แบบ คือ แบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น　แบบฝรั่งเศส และภูมิทัศน์แบบอังกฤษ สวนแห่งนี้เปรียบเสมือน โอเอซิสที่เป็นหัวใจหลักของโตเกียว　ซึ่งมีการเฉลิมฉลองด้วยดอกซากุระบานยามฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้สีแดงยามฤดูใบไม้ร่วง (ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาในบริเวณนี้ และห้ามใช้เครื่องเล่นเด็ก)

การเดินทาง
โดยรถไฟ:เดินประมาณ 5 นาทีจากทางออกหมายเลข 1 ของสถานีชินจูกุเกียวเอ็นมาเอะของโตเกียวเมโทรสายมารุโนะอุจิเดินประมาณ 5 นาทีจากสถานีเซ็นดะงะยะของ JR สายโซอุบุ
โดยรถบัส:ขึ้นรถบัสที่ทางออกชินจูกุด้านทิศตะวันตก แล้วลงที่ป้ายชินจูกุเกียวเอ็น

Chidorigafuchi Park
อยู่ห่างไปทางตะวันตกของพระราชวังอิมพีเรียล ถนนจิโดริกะฟุจิเรียะกุโด เป็นทางเดินที่ทอดยาวราว　700 เมตร จากบริเวณปากทางเข้าที่เป็นที่ตั้งของสุสานจิโดริกะฟุจิ สุสานของผู้เสียชีวิตจากสงครามไปสุดยังถนนยาสุกุนิโดริ ตลอดสองข้างทางของถนนเรียงรายไปด้วยซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะ และโอชิมะซากุระถึง 260 ต้นที่พร้อมใจแผ่กิ่งก้านขยายออกมายังทางเดิน ให้ความรู้สึกราวกับเดินอยู่ในซุ้มทางเดินแห่งซากุระเลยทีเดียว และถนนสายนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามของซากุระที่มีชื่อเสียงของประเทศ จึงไม่เพียงแค่ผู้คนในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ที่นี่ยังต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่าล้านคน ซึ่งในช่วงปลายเดือนมีนาคมจนถึงต้นเดือนเมษายนยังมีการประดับไฟให้ต้นซากุระอีกด้วย (ช่วงเวลา 18:30 – 22:00 น.)

ข้อมูลและรูปภาพ
http://www.gotokyo.org/en/index.html
https://www.govoyagin.com/
http://www.yurukaze.com/meanwhile-in-japan/sakura-hamarikyu-gardens-heart-tokyo/
http://www.realjapan.org/
http://en.blog.govoyagin.com/
http://www.sakura-hostel.co.jp/
https://mytokyoguide.wordpress.com/
http://jp-hotnow.com/en/detail/jphn_his016.php?category=leisure